TWC SEO Expert
Welcome

I’m TWC SEO Expert

SEO & Digital Marketing Specialist

สวัสดีครับ ผมคือ TWC SEO Expert
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ในสายงานการตลาดออนไลน์ ผ่านการทำ SEO ตั้งแต่ยุค 2.0 จนถึงปัจจุบันที่เข้าสู่ GEO & AI Search

ผมพร้อมแบ่งปันกลยุทธ์ เทคนิค และรีวิวการทำ SEO ที่จะช่วยให้ ธุรกิจ เว็บไซต์ และบริการของคุณ เติบโต มีกำไร และมีลูกค้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน

📌 สนใจปรึกษาเรื่อง SEO หรือต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ ติดต่อได้ที่ LINE: @tfind หรือโทร 087-8314785

ปรึกษา SEO ฟรี

รีวิว Backlink เว็บทำ backlink รับทำ SEO ให้ติดหน้าแรก | รับทำ SEO การันตีผลลัพธ์

ดันร้านติด Google Maps แบบยั่งยืน ด้วยการปรับ Google My Business (GMB) อย่างมืออาชีพ

 

ถ้าคุณเป็นคนไทยที่เปิดร้านอยู่ต่างประเทศ—จะเป็นร้านอาหารไทย ร้านนวด ร้านขนม คาเฟ่ หรือบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า—ลูกค้าใหม่ส่วนใหญ่ไม่ได้เดินผ่านมาเฉย ๆ แล้วเข้าร้านอีกต่อไป เขาหยิบมือถือขึ้นมาเสิร์ชคำว่า “Thai restaurant near me”, “Thai massage + ชื่อเมือง”, “phone repair near me” แล้วดูผลลัพธ์ใน Google Maps ชัด ๆ เลยว่าใครโผล่ขึ้นมาใน 3 อันดับแรก (Local 3-Pack)

คำถามสำคัญคือ: ทำยังไงให้ร้านของเรา “ติดตรงนั้น” ได้แบบปลอดภัยและยั่งยืน?
คำตอบสั้น ๆ คือ ปรับ Google Business Profile (เดิมคือ Google My Business / GMB) ให้ถูกหลัก Local SEO แล้วเสริมด้วย “สัญญาณท้องถิ่น” ที่สอดคล้องกับพื้นที่ของเรา

วันนี้ผมอยากชวนรู้จักบริการของ Ashikur Rahman (ashikrahman42)—ฟรีแลนซ์สาย Local SEO ใน Fiverr ที่รีวิวแน่นระดับ 4.9 ดาวจากงานกว่า 3,000+ เคส และมี ทีม 22 คน ช่วยกันทำงานแบบ Manual/White-Hat เน้นผลระยะยาว เขาไม่ได้รับเปิดเพจใหม่ (ต้องมีเพจยืนยันแล้ว) แต่เชี่ยวชาญมากกับการ ออปติไมซ์เพจที่มีอยู่ ให้ “เด้ง” บนแผนที่

ดันร้านติด Google Maps แบบยั่งยืน ด้วยการปรับ Google My Business (GMB) อย่างมืออาชีพ

ลองดูไปด้วยกันครับว่า บริการแนวนี้ดีจริงไหม เหมาะกับใคร และควรคาดหวังอะไร ก่อนจะกดสั่งซื้อ

1) ทำไม Google Maps สำคัญกว่าที่คิด (โดยเฉพาะสำหรับร้านไทยในต่างแดน)

ถ้าเปรียบการทำการตลาดเป็น “ทำเล” บนถนนใหญ่ Google Maps ก็คือแยกไฟแดงตรงกลางเมือง คนขับรถทุกคันต้องผ่านตรงนี้ ลูกค้าที่กำลังหาข้าวกิน หรือหาบริการด่วน จะตัดสินใจจากสิ่งนี้เป็นหลัก:

  • ระยะทาง/เวลาเดินทาง (ใกล้ฉัน)

  • รีวิวดาวและคอมเมนต์

  • รูปภาพเมนู/บรรยากาศจริง

  • ข้อมูลครบไหม (เวลาเปิดปิด, เบอร์โทร, เว็บไซต์/สั่งจอง)

ถ้าข้อมูลเพจเราครบ ดูน่าเชื่อถือ และ “เข้ากับคำค้นหา” ได้ดี โอกาสจะขึ้น 3-Pack สูงมาก ผลลัพธ์ที่ร้านจะเห็นคือ โทรเข้าเยอะขึ้น, เสิร์ชชื่อร้านตรงมากขึ้น (Brand Searches), และลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน

2) บริการของ Ashikur Rahman ทำอะไรให้ร้านเราได้บ้าง

หัวใจของงานคือ ทำให้เพจ GMB เรา “เกี่ยวข้อง-ใกล้-เด่น” ตาม 3 ปัจจัยจัดอันดับของ Google (Relevance, Distance, Prominence) เขาทำเป็นชุด ๆ ดังนี้

2.1 ปรับเพจ GMB ให้ครบถ้วน (Relevance + Prominence)

  • ตรวจ NAP Consistency (ชื่อ-ที่อยู่-เบอร์) ให้ตรงกันทุกที่

  • ตั้ง หมวดหมู่หลัก/รอง ให้คม (เช่น “Thai Restaurant”, “Takeout”, “Delivery”)

  • เติม บริการ/คุณสมบัติ เช่น Dine-in/Takeaway/Delivery, Kid-friendly, Reservations

  • เขียน คำอธิบายธุรกิจ ที่สอดคล้องคำค้นในพื้นที่ (ไม่สแปมคีย์เวิร์ด)

  • เปิดใช้ Products/Menus/Services ในเพจให้ครบ

2.2 คอนเทนต์บน GMB ที่ “ขยับแรง” (Engagement Signals)

  • ทำ GMB Posts อย่างสม่ำเสมอ (เมนูใหม่ โปรรายสัปดาห์ ภาพรีวิวลูกค้า)

  • สร้าง Q&A บนเพจ (คำถามจริงที่ลูกค้าชอบถาม—ที่จอดรถ, อาหารฮาลาล, เผ็ดได้ไหม ฯลฯ)

  • อัปโหลดรูป/วิดีโอ Geo-tagged (สัญญาณพิกัดช่วยระบุพื้นที่อย่างเป็นธรรมชาติ)

2.3 Local Citations & Maps Signals (Prominence)

  • สำรวจ/แก้ Citations เดิม (ไดเรกทอรีท้องถิ่น) ให้ข้อมูลตรงกัน

  • สร้าง Citations ใหม่ ที่เกี่ยวกับเมือง/อุตสาหกรรม

  • ทำ Google Maps Citations/Driving Directions แบบ Manual เป็นพันลิงก์ (ขึ้นกับแพ็กเกจ)

  • เสริม Web 2.0/Social Profiles Embedding เพื่อเพิ่มสัญญาณออนไลน์รอบร้าน

ผลลัพธ์ที่ลูกค้าส่วนใหญ่พูดตรงกัน: อันดับแผนที่ดีขึ้น โทรเข้าเยอะขึ้น และได้ลูกค้าใหม่จริง ภายในช่วง 3–4 สัปดาห์หลัง Google index งาน (ขึ้นกับเมืองและคู่แข่ง)

3) เหมาะกับร้านแบบไหน และต้องเตรียมอะไร

เหมาะมาก สำหรับ

  • ร้านอาหารไทย/คาเฟ่/เบเกอรี่ไทยในต่างประเทศ

  • ร้านนวดสปา/ซ่อมมือถือ/ทำผม/ทำเล็บ/บริการถึงบ้าน (Home Services)

  • กิจการที่ลูกค้าค้นแบบ “near me” เป็นหลัก และมีพื้นที่ให้แข่งขันไม่กว้างเกินไป

สิ่งที่ควรเตรียม

  • เพจ Google Business Profile ที่ ยืนยันแล้ว

  • คีย์เวิร์ด + โซนบริการ (Service Area) ที่อยากชนะ

  • รูปภาพจริงคุณภาพดี (หน้าร้าน เมนู ทีมงาน ลูกค้าจริง—แนวตั้งแนวนอนให้ครบ)

  • แนวทางเก็บรีวิว (QR Code ที่เคาน์เตอร์/ใบเสร็จ, ป้ายชวนรีวิว, ลิงก์สั้น)

4) แพ็กเกจ & สิ่งที่ควรคาดหวัง

  • Basic – $100 (14 วัน): ปรับพื้นฐาน GMB + โพสต์ + แก้ NAP + Citations จำนวนหนึ่ง

  • Standard – $200 (21 วัน): เพิ่มความลึกของคอนเทนต์/หมวดรอง/แหล่งอ้างอิง

  • Premium – $300 (30 วัน): ทำแบบ A-to-Z ครบวงจร + สร้าง Maps Citations ปริมาณมาก

เขาทำ White-Hat 100% และ Manual ทั้งหมด ส่งรายงานตรวจสอบได้จริงเป็น Google Sheet/Excel
ช่วงเห็นผล: โดยทั่วไป 3–4 สัปดาห์เริ่มขยับ และดีขึ้นเรื่อย ๆ หากร้าน อัปเดตเพจ/เก็บรีวิวต่อเนื่อง

5) เคล็ดลับเสริมที่เจ้าของร้านควรทำควบคู่ (สำคัญมาก)

  1. ตอบรีวิวทุกอัน (ทั้งชมและติ) ด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง ใส่คีย์เวิร์ดพื้นที่อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น “ขอบคุณลูกค้าที่แวะมาทานข้าวที่ Thai House สาขา Frankfurt สัปดาห์หน้าเรามีเมนูแกงเขียวหวานนะครับ”

  2. โพสต์ประจำสัปดาห์: โปรลับวันธรรมดา/เมนูพิเศษ/รูปครัวจริง–วัตถุดิบไทย—Google ชอบเพจที่ “มีชีวิต”

  3. ใส่เมนู/สินค้าในแท็บ Products ให้มีรูป ราคา คำอธิบาย (ลูกค้ากดดูบน Maps ได้เลย)

  4. ตั้งเวลาทำการพิเศษ/วันหยุด ให้ถูก (หลายร้านตกอันดับช่วงเทศกาลเพราะชั่วโมงเปิดผิด)

  5. ฝังแผนที่/ปุ่มโทร ในเว็บ + ใส่ UTM ที่ลิงก์จาก GMB ไปเว็บ เพื่อติดตามผลได้

  6. หลีกเลี่ยงการยัดคีย์เวิร์ดชื่อร้าน (เช่น “Thai Restaurant Best in Munich – Cheap & Fast”) เสี่ยงโดน Flag—ใช้ชื่อแบรนด์แท้ ๆ พอ

  7. ภาพถ่ายจากลูกค้า (User-generated) ช่วยมาก—ชวนลูกค้าถ่ายและแท็กร้าน

I will optimize google my business page for local SEO gmb ranking

6) รีวิวจากลูกค้าจริง: เขาว่ายังไง

ในหน้า Gig จะเห็นคำชมที่เจอบ่อย ๆ เช่น

  • อันดับขึ้นจริง ในพื้นที่เรา เห็นโทรเข้ามากกว่าเดิม”

  • งานมืออาชีพ รายงานละเอียด ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน”

  • สื่อสารไว และให้คำแนะนำเพิ่มจากประสบการณ์ของทีม”
    ลูกค้าจำนวนมาก สั่งซ้ำ เพราะผลอยู่ตัวและอยากรักษาอันดับให้ยืนระยะ

7) ข้อดี–ข้อสังเกต (ให้ตัดสินใจอย่างแฟร์ ๆ)

ข้อดี

  • โฟกัส Local SEO/GMB โดยตรง—เหมาะกับธุรกิจหน้าร้าน

  • ทำงาน Manual + White-Hat ปลอดภัยต่อเพจ

  • มี ทีม 22 คน และประสบการณ์ตั้งแต่ปี 2017

  • มี รายงานโปร่งใส ตรวจสอบได้จริง

ข้อสังเกต

  • ไม่รับเปิดเพจใหม่—ต้องมีเพจที่ Verify แล้ว

  • ผลลัพธ์ ไม่ใช่ข้ามคืน (ปกติเริ่มเห็นใน 3–4 สัปดาห์ และดีขึ้นเรื่อย ๆ)

  • เมืองที่ แข่งดุ (ย่านท่องเที่ยว ร้านไทยเยอะ) อาจต้องทำอย่างต่อเนื่อง + เก็บรีวิวจริงช่วยกัน

8) สรุป: เหมาะกับคนไทยในต่างประเทศที่ “อยากให้ลูกค้าใกล้ตัวเจอเรา”

ถ้าร้านคุณพึ่งพาลูกค้าในระยะ 5–10 กม. การติดบน Google Maps 3-Pack คือชุดเกราะสำคัญสุด ๆ บริการแนว GMB Optimization แบบที่ Ashikur ทำ ช่วย “จัดบ้าน” ให้เพจเราพร้อมแข่ง แถมใส่สัญญาณท้องถิ่นที่ Google ชอบ ครบองค์ประกอบ Relevance–Distance–Prominence

พูดง่าย ๆ:

  • คนเสิร์ช → เจอเราในแผนที่

  • คลิกดูรูป/เมนู/รีวิว → โทร/นำทางมาหน้าร้าน

  • ร้านได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและยั่งยืน

ถ้าพร้อมเริ่ม ลองเริ่มจากแพ็กเกจพื้นฐานก่อน ดูแนวทาง/รายงาน/การขยับของอันดับ แล้วค่อยอัปเกรดเมื่อเห็นผลครับ

ลิงก์บริการ (กดดูแพ็กเกจ/ถามรายละเอียด)

Ashikur Rahman – Google My Business Optimization (Local SEO/GMB Ranking)

รีวิว Mark P SEO บน Fiverr | บริการทำ SEO รายเดือน เห็นผลจริงในระยะยาว

 ทุกวันนี้ใครทำเว็บไซต์ก็คงหนีไม่พ้นคำว่า SEO หรือ Search Engine Optimization เพราะต่อให้เว็บสวยแค่ไหน ถ้าไม่มีคนเสิร์ชเจอ ก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ปัญหาคือการทำ SEO มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด มันไม่ใช่แค่ใส่คีย์เวิร์ดเยอะ ๆ หรือไปโพสต์ลิงก์มั่ว ๆ แล้วอันดับจะขึ้นทันที หลายคนลองทำเองแล้วไม่ไปไหน บางคนเผลอใช้วิธีลัดจนเว็บโดน Google แบนอีก

พอพูดถึงการหาคนมาช่วยทำ SEO หลายคนคงนึกถึง Fiverr เพราะเป็นที่รวมฟรีแลนซ์จากทั่วโลก ซึ่งมีทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ราคา 30–50 เหรียญ ไปจนถึงมืออาชีพระดับที่ทำงานกับบริษัทใหญ่ ๆ มาแล้ว และหนึ่งในชื่อที่โผล่มาแทบทุกครั้งเวลาเราค้นคำว่า “SEO” ก็คือ Mark P นี่แหละ

รีวิว Mark P SEO บน Fiverr | บริการทำ SEO รายเดือน เห็นผลจริงในระยะยาว

ใครคือ Mark P?

Mark P เป็นคนอังกฤษที่ไปอยู่ฝรั่งเศส แต่ทำงานสาย SEO มานานกว่า 20 ปี ฟังดูแล้วนี่ไม่ใช่คนที่เพิ่งหัดทำ แต่เป็นระดับที่อยู่กับการเปลี่ยนแปลงของ Google มาหลายยุคหลายสมัยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตอน Google เพิ่งเริ่มจับคีย์เวิร์ดตรง ๆ ไปจนถึงยุคที่มี AI ช่วยประเมินคุณภาพเนื้อหา

สิ่งที่ทำให้หลายคนหยุดดูคือสถิติบน Fiverr ของเขาที่โหดมาก:

  • ทำงานไปแล้วกว่า 38,900 ออร์เดอร์

  • คะแนนเฉลี่ย 5.0 เต็ม (จากรีวิวเกือบ 19,000 รายการ)

  • ได้ Badge Top Rated Seller ซึ่งไม่ใช่ว่าใครจะได้ง่าย ๆ

ฟังดูเหมือนโฆษณาใช่ไหม แต่พอเราไปไล่อ่านรีวิวจริง ๆ ก็จะเห็นว่า คนที่เคยใช้บริการเขามักจะพูดคล้ายกันว่า “งานละเอียด โปร่งใส เห็นผลจริง และที่สำคัญคือสื่อสารดี”

ลูกค้าที่มาใช้แล้วเจออะไรบ้าง?

ถ้าดูจากรีวิวของลูกค้าหลายคน จะเห็นภาพค่อนข้างชัดเลยว่า สิ่งที่ Mark ทำคือการวางระบบ SEO ให้เว็บแบบจริงจัง ไม่ใช่ขายลิงก์มั่ว ๆ เหมือนกิ๊กถูก ๆ ที่เราเห็นเต็ม Fiverr

บางคนเล่าว่า หลังจากเดือนแรกก็เริ่มเห็นทราฟฟิกเพิ่มขึ้น แม้จะยังไม่เยอะมาก แต่พอทำต่อเนื่อง 2–3 เดือน คีย์เวิร์ดหลัก ๆ ที่เคยหล่นไปหน้า 5 หน้า 6 ก็ขยับขึ้นมาหน้าแรกได้จริง หลายคนบอกตรงกันว่า “สิ่งที่เขาทำ มันเห็นผลแบบยั่งยืน ไม่ใช่เด้งขึ้นแล้วตกลง”

อีกเรื่องที่ลูกค้าพูดถึงบ่อยคือ รายงานละเอียดมาก ไม่ใช่แค่บอกว่าทำแล้ว แต่ส่งลิงก์ให้ดูเลยว่าได้ Backlink จากเว็บไหน หน้าอะไร Domain Authority เท่าไร ทำให้มั่นใจได้ว่าเงินที่จ่ายไปไม่ได้หายไปกับอากาศ

ลูกค้าจากสหรัฐฯ คนหนึ่งเล่าว่า “Mark อธิบายทุกอย่างเข้าใจง่ายมาก เหมือนเราคุยกับเพื่อนที่อยากช่วยให้เว็บเราดีขึ้นจริง ๆ” บางรายถึงขั้นให้เขาดูแล SEO มาหลายปีต่อเนื่องเพราะผลลัพธ์มันตอบโจทย์

เขาทำอะไรให้บ้าง?

ตรงนี้แหละที่หลายคนสนใจ เพราะ SEO ไม่ใช่งานเดียวจบ แต่เป็นหลายส่วนประกอบเข้าด้วยกัน Mark จะทำเป็นแพ็กเกจรายเดือน แบ่งเป็น Basic, Standard, Premium

  • เริ่มจาก Audit: เขาจะตรวจเว็บทั้งระบบว่าอะไรที่เป็นจุดอ่อน เช่น ความเร็วเว็บ Meta tag ซ้ำ ๆ หรือโครงสร้างลิงก์ภายในที่ยังไม่ดีพอ

  • หาคีย์เวิร์ด: ไม่ใช่แค่เลือกคำที่คนค้นเยอะ แต่เป็นคำที่มีโอกาสแข่งขันได้จริงสำหรับเว็บลูกค้า

  • On-page SEO: ปรับแต่งเนื้อหา โครงสร้าง และภาพให้ถูกต้องตามหลัก Google

  • Off-page SEO: ตรงนี้คือจุดแข็ง เขามีเครือข่าย Blogger และเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่สามารถลงลิงก์ได้จริง ๆ ซึ่งลิงก์เหล่านี้มีคุณภาพ ไม่ใช่เว็บสแปม

  • รายงาน: ทุกสิ้นรอบงานจะมีรีพอร์ตละเอียด ว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง ได้ลิงก์จากที่ไหน และผลที่คาดว่าจะตามมา

ลูกค้าหลายคนบอกตรงกันว่า “มันคุ้ม เพราะเราได้ทั้งงาน และได้ความรู้เพิ่มไปด้วย” เพราะเขาจะอธิบายด้วยว่าแต่ละอย่างทำไปทำไม

แล้วมันดีจริงไหม?

จากการอ่านรีวิวและดูเคสที่เขาทำมา สิ่งหนึ่งที่ชัดคือ Mark ไม่ได้ขายฝัน เขาพูดตรง ๆ ว่า SEO ไม่มีใครการันตีหน้าแรกได้ แต่สิ่งที่เขาทำคือวางระบบให้เว็บ พร้อมต่อสู้ในสนามจริง

บางเว็บที่เขาทำมาก่อน เช่น E-commerce ด้านกีฬา ที่กำลังเสียอันดับเพราะโดนคู่แข่งแย่ง Backlink ไป Mark ก็เข้ามาแก้ทั้ง On-page และ Off-page จนสามารถพาเว็บกลับมาติดหน้าแรกในคีย์เวิร์ดที่แข่งหนักได้ หลังจากทำไปเกิน 6 เดือน

หรือบางธุรกิจที่เพิ่งเริ่ม เขาก็ช่วยทำให้จากเว็บที่ไม่มีใครรู้จักเลย เริ่มมีคนค้นหาเจอ และค่อย ๆ โตขึ้นตามเวลา

มีข้อควรระวังอะไรบ้าง?

แน่นอนว่าบริการแบบนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน

  • ถ้าใครหวังผลเร็ว ๆ ภายใน 2 อาทิตย์ บอกเลยว่าไม่ใช่ทาง เพราะ SEO มันคือการลงทุนระยะยาว

  • ราคาก็ถือว่าสูงกว่าเจ้าอื่นใน Fiverr เยอะ (Basic เริ่มที่ $485 ไปจนถึง Premium เกิน $1,500) แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันต่างกันตรงคุณภาพลิงก์และความมั่นใจว่าเป็นงานจริง ไม่ใช่ของปลอม

  • และที่สำคัญคือ ต้องมีความเข้าใจเบื้องต้นว่า SEO มันคือการแข่งกับคู่แข่งในตลาดเดียวกัน บางทีผลลัพธ์อาจเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับว่าคู่แข่งคุณแข็งแค่ไหน



สรุปแบบเพื่อนเล่าเพื่อนฟัง

ถ้าถามผมว่า Mark P บน Fiverr คุ้มไหม? ผมว่า “คุ้มสำหรับคนที่จริงจังกับเว็บตัวเองและมีงบประมาณ” เพราะเขาไม่ได้ทำงานแบบขอไปที แต่ทำเป็นระบบยาว ๆ ชัดเจน โปร่งใส และคนที่เคยใช้ส่วนใหญ่ก็บอกว่าผลลัพธ์ออกมาดีจนต้องใช้ซ้ำ

พูดง่าย ๆ คือ ถ้าคุณอยากลงทุนกับ SEO แบบที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยง ไม่ใช่วิธีลัด แต่ได้ผลลัพธ์ระยะยาว Mark P คือชื่อที่คุณควรจำไว้ เพราะเขาไม่ใช่ฟรีแลนซ์ที่มาลองทำเล่น ๆ แต่เป็นมืออาชีพระดับที่อยู่กับวงการนี้มา 20 ปีเต็ม





เทคนิคจากช่อง Ghulam Ali: วิธีทำ SEO ให้ติดอันดับ Google ภายใน 24 ชั่วโมง

 

ในโลกของ SEO หลายคนอาจเคยได้ยินว่า “การทำเว็บให้ติดอันดับต้องใช้เวลาเป็นเดือน ๆ” แต่ช่อง Ghulam Ali บน YouTube ได้แชร์วิธีการที่เขาทำจริง และทำให้เพจลูกค้าติดอันดับ Google ได้ภายในเวลาแค่ 24 ชั่วโมง
เผยขั้นตอนแบบละเอียดที่ Ghulam Ali ใช้ทำเว็บลูกค้าให้ติดอันดับ Google ภายในวันเดียว ตั้งแต่ Audit → On-Page → Keyword → Content → Backlink → Indexing


แน่นอนว่าวิธีนี้ไม่ได้ใช้ได้กับทุกเว็บ โดยเฉพาะเว็บใหม่ที่เพิ่งเปิดแบบป้ายแดง แต่ถ้าเว็บคุณมีอายุอย่างน้อย 4–6 เดือนขึ้นไป และมี authority อยู่ในสายตาของกูเกิล เทคนิคนี้สามารถช่วยให้เพจใหม่ ๆ หรือเพจที่รีออปติไมซ์ขึ้นมาได้เร็วมาก

มาดูกันทีละขั้นตอนครับว่าเขาใช้วิธีอะไรบ้าง 

1) เริ่มจากเว็บที่มีอายุแล้ว (Aged Website)

จุดเริ่มต้นของเทคนิคนี้คือ “เว็บที่มีอายุ” ไม่ใช่โดเมนใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวาน

  • เว็บที่มีอายุ 4–6 เดือนขึ้นไป มักจะถูกกูเกิลมองว่ามี ความน่าเชื่อถือ (authority) แล้ว

  • การจัดอันดับหน้าใหม่จึงทำได้ง่ายกว่า

  • ถ้าเป็นเว็บใหม่จริง ๆ เทคนิคนี้อาจยังใช้ไม่ได้ ต้องให้เวลาเว็บสร้างความน่าเชื่อถือก่อน

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนพยายามซื้อ aged domain มาเริ่มโปรเจกต์ SEO แทนที่จะใช้โดเมนใหม่ ๆ

2) ทำ Initial Audit: ตรวจสุขภาพเว็บให้ละเอียด

ก่อนจะไปสร้างคอนเทนต์หรือหาลิงก์ สิ่งแรกที่ควรทำคือ ตรวจสอบสภาพเว็บ (audit) ให้ครบทุกมุม เหมือนหมอตรวจร่างกายก่อนรักษาคนไข้

Ghulam Ali ใช้เครื่องมืออย่าง:

  • Screaming Frog

  • Ahrefs Site Audit

  • SEMrush Site Audit

  • Website Auditor by Link Assistant

สิ่งที่ต้องเช็ก:

  • Core Web Vitals → ความเร็ว, LCP, CLS

  • SSL/HTTPS → มีบางหน้าที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่

  • Duplicate Content → หน้าใดที่ซ้ำกัน

  • Missing H1 / Multiple H2 → ปัญหา heading structure

  • Page Speed → มีเพจที่โหลดช้ากี่หน้า

  • Broken Links → ลิงก์เสียภายในเว็บ

พอเราได้ list ของปัญหาพวกนี้แล้ว ขั้นต่อไปคือการแก้ไขจุดที่สำคัญที่สุด

3) Fix On-Page Issues: เก็บงานพื้นฐานให้แน่น

หลังจากรู้แล้วว่าเว็บมีปัญหาตรงไหน ก็มาถึงขั้นตอน การแก้ไข on-page SEO

สิ่งที่เขาเน้นแก้ ได้แก่:

  • ติดตั้ง SSL (HTTPS) ให้ครบ → ถ้าไม่ทำ เบราว์เซอร์จะฟ้องว่า “Not Secure” และกูเกิลก็ลดความน่าเชื่อถือ

  • ปรับ Title และ H1 → ใส่คีย์เวิร์ดหลักให้ชัดเจน ตรงกับเจตนาผู้ค้นหา

  • ใช้ H2/H3 แบ่งหัวข้อย่อย → ทำให้อ่านง่ายขึ้นและกูเกิลเข้าใจโครงสร้างเพจ

  • ลด Page Load Time → บีบอัดรูป, เปิด lazy load, ใช้ CDN

  • ใส่ Internal Links → ช่วยกระจายพลังและทำให้กูเกิลเจอเพจใหม่ง่ายขึ้น

การแก้ไข on-page เหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่เป็นตัวกำหนดเลยว่าเว็บคุณ “พร้อมสำหรับการจัดอันดับ” หรือยัง

4) Keyword Research + Competitor Analysis: หาโอกาสจากคู่แข่ง

การเลือกคีย์เวิร์ดไม่ได้ทำแบบสุ่มหรือเลือกตามความรู้สึก แต่ใช้การ วิเคราะห์คู่แข่ง

สิ่งที่เขาทำคือ:

  1. เอาโดเมนคู่แข่งไปใส่ใน SEMrush / Ahrefs → ดูว่าเขาได้ทราฟฟิกจากคีย์เวิร์ดไหนบ้าง

  2. เลือกคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งได้ทราฟฟิก แต่ ไม่ได้แข็งเกินไป (เช่น DR ไม่สูง, backlink น้อย)

  3. เปิด Google ดู Top 5 ผลลัพธ์ → ถ้าเจอ niche site ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ = สัญญาณว่าเรามีโอกาสแซง

ตัวอย่างในคลิป:
เขาเจอคีย์เวิร์ด “Drone Taxi Dubai” → มีเว็บ DR แค่ 27 แต่แซงเว็บใหญ่ ๆ อย่าง Indian Express ได้ เพราะเป็น เว็บ niche ที่โฟกัสแค่เรื่อง taxi

สรุปคือ: เน้นคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งยังทำไม่แน่น และเรามีโอกาสเข้าไปแทรกได้

5) Content: ทำคอนเทนต์ให้ครบและดีกว่าคู่แข่ง

เมื่อเลือกคีย์เวิร์ดได้แล้ว ก็มาถึงเรื่อง คอนเทนต์ ซึ่งเป็นหัวใจหลัก

เทคนิคคือ:

  • ศึกษาเพจคู่แข่งที่ติดอันดับ → ดูว่าเขาเขียนอะไร, มีหัวข้อไหนบ้าง

  • ทำคอนเทนต์ที่ ครอบคลุมกว่า เช่น เพิ่มราคา วิธีใช้งาน ตาราง FAQ

  • ใส่รูปภาพ/อินโฟกราฟิก → ทำให้คนอ่านเข้าใจง่ายขึ้น

  • เขียนให้ ตอบโจทย์เจตนาค้นหา (search intent) โดยตรง

โครงคอนเทนต์ตัวอย่างจากวิดีโอ:

  • H1: Drone Taxi Dubai คืออะไร

  • H2: ราคาและวิธีคิดค่าโดยสาร

  • H2: เส้นทางและเวลาที่ให้บริการ

  • H2: วิธีจองและข้อกำหนด

  • H2: ความปลอดภัยและข้อจำกัด

  • H2: FAQ

  • สรุป + Call to Action

6) Link Building: เติมลิงก์ที่จำเป็น

เขาใช้เทคนิค Backlink Gap Analysis → เอาเว็บตัวเองไปเทียบกับคู่แข่ง แล้วดูว่า:

  • คู่แข่งมีลิงก์จากเว็บไหน

  • เว็บเราไม่มีจากแหล่งนั้น → ก็ไปหาลิงก์มาเหมือนกัน

ถ้าเป็นลิงก์ฟรีก็ทำได้เลย ถ้าเป็น paid ก็อาจต้องลงทุนบ้าง เพราะถ้าคู่แข่งซื้อมาแล้ว เราอาจต้องจ่ายเพื่อไม่ให้เสียเปรียบ

นอกจากนี้ยังใช้ internal links ช่วยดันเพจใหม่จากเพจที่แรงกว่าในเว็บ

7) Indexing: บอกกูเกิลว่า “พร้อมแล้ว”

ขั้นสุดท้ายคือการ เร่งให้กูเกิลมาเก็บข้อมูลเร็วขึ้น

  • ใช้ Google Search Console → Request Indexing

  • วาง internal links จากเพจที่กูเกิลเข้ามาบ่อย

  • แชร์ลิงก์ผ่าน social หรือส่งผ่าน email newsletter เพื่อให้เกิดสัญญาณการคลิก

ทำครบทุกอย่างแล้ว กูเกิลก็เข้ามาเก็บข้อมูลและจัดอันดับได้ไวมาก

สรุป: สูตร 24 ชั่วโมงจาก Ghulam Ali

เมื่อรวมทุกขั้นตอน จะได้เป็นสูตร:

Audit → Fix On-Page → Keyword Research → Better Content → Link Building → Request Indexing

สิ่งสำคัญคือ ต้องทำครบทุกขั้นตอน และทำกับเว็บที่มี authority อยู่แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือ เพจใหม่สามารถขึ้นอันดับกูเกิลได้ภายใน 24 ชั่วโมงจริง ๆ

✍️ ผมไม่ได้เป็นคนทำเองนะครับ แค่หยิบเทคนิคจากคลิปของ Ghulam Ali มาสรุปให้ฟัง เผื่อใครอยากลองเอาไปปรับใช้กับเว็บหรือบล็อกของตัวเองครับ

คู่หู SEO ที่ปั้น Crocs แบรนด์รองเท้าโต 14 เท่า Jay & Lucy กับ Monthly SEO Backlinks ที่เปลี่ยนเกมธุรกิจ

 

เจ้าของเว็บไทยหลายคนพยายามทำ SEO เองจนเหนื่อย หรือจ้างเอเจนซี่ในประเทศที่ค่าบริการสูง แต่สุดท้ายผลลัพธ์กลับไม่คุ้ม บางรายยังเสี่ยงใช้วิธี Black Hat SEO หรือ PBN backlinks ที่อาจทำให้เว็บถูก Google ลงโทษจนหายจากหน้าค้นหาไปเลย

คู่หู SEO ที่ปั้น Crocs แบรนด์รองเท้าโต 14 เท่า Jay & Lucy กับ Monthly SEO Backlinks ที่เปลี่ยนเกมธุรกิจ

แล้วถ้าผมบอกว่ามีเอเจนซี่ที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้ Crocs แบรนด์รองเท้าระดับโลก มียอด Traffic โตขึ้นกว่า 14 เท่า ภายใน 8 เดือน ด้วย Monthly SEO Backlinks Service แบบ White Hat ล่ะครับ?

นี่คือฝีมือของ Jay & Lucy คู่หู SEO จากอินเดีย ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO & GEO Strategy ที่มีผลงานระดับโลกและถูกคัดเลือกเป็น Fiverr Pro

Jay & Lucy คือใคร

Jay และ Lucy เริ่มต้นทำ SEO มาตั้งแต่ปี 2009 ผ่านประสบการณ์กว่า 4,200 โปรเจกต์ทั่วโลก พวกเขาไม่ได้ทำงานแบบฟรีแลนซ์ทั่วไป แต่คือทีมที่พัฒนากลยุทธ์ SEO ระดับเอเจนซี่เต็มรูปแบบ โดยเฉพาะ Monthly SEO Backlinks Service ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับ Google Algorithm Update และการเปลี่ยนแปลงของ AI Search Era

สิ่งที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ได้โฟกัสแค่ Google เท่านั้น แต่ยังวางกลยุทธ์เพื่อให้เว็บของลูกค้าติดใน AI Platforms อย่าง ChatGPT, Bing AI, และ Google AI Overview อีกด้วย ซึ่งนี่แหละคือจุดที่ทำให้ Jay & Lucy “นำเกม” กว่าเอเจนซี่ SEO ทั่วไป

Monthly SEO Backlinks Service

Jay & Lucy ขายบริการ SEO รายเดือนที่ครบเครื่องกว่าใคร จุดเด่นคือการสร้างโปรไฟล์ลิงก์ที่สมดุล มีทั้ง Guest Posts, Cult Links, Diversified Backlinks รวมถึง On-page Audit และแนะนำการปรับแต่งหน้าเว็บ

รายละเอียดที่ลูกค้าจะได้รับ

  • 4 Premium Guest Posts พร้อม Unique Content 500 คำ

  • 4 Cult Links (DA70+, DR70+) คุณภาพสูงระดับ Authority Site

  • 4 Exclusive Guest Blogs ที่ช่วยสร้าง High Signalling Authority

  • 500+ Diversified Backlinks ครอบคลุมหลายแหล่งเพื่อลดความเสี่ยง

  • On-page Analysis & Recommendations วิเคราะห์หน้าเว็บควบคู่ไปด้วย

นอกจากนี้ Jay & Lucy ยังทำ Multi-Tiered Structure, Anchor Diversity ครบทั้ง Branded, LSI, Partial, Exact, และ Drip Feed Indexing ค่อย ๆ กระจายลิงก์ไปใน 10–30 วัน เพื่อให้ดูธรรมชาติที่สุด

Case Study ที่พิสูจน์แล้ว

Crocs – Traffic โต 14X ใน 8 เดือน

นี่คือเคสที่ทำให้ Jay & Lucy โด่งดัง พวกเขาช่วย Crocs ดัน Keywords 32 จาก 40 คำขึ้นหน้าแรก Google และ 25% ติดอันดับ #1 ในเวลาเพียง 8 เดือน ผลลัพธ์คือ Traffic ของเว็บพุ่งขึ้น 14 เท่า และกลายเป็นหนึ่งในเคส SEO ที่หลายคนยกเป็น Benchmark

Pictory – ชิงพื้นที่บน AI Search

ในปี 2025 พวกเขาทำงานให้ Pictory แพลตฟอร์ม AI Video Creation โดยใช้กลยุทธ์ Generative Engine Optimization (GEO) ไม่ใช่แค่ดันบน Google แต่ยังทำให้ Pictory ไปโผล่บน ChatGPT และ Bing AI ด้วย ผลคือ Traffic โตขึ้น 6 เท่า คีย์เวิร์ดจาก 15 คำเพิ่มเป็นกว่า 1,100 คำ

Rates4u.ca – จากเว็บเล็กสู่ผู้นำตลาด Mortgage Canada

เว็บเปรียบเทียบดอกเบี้ยในแคนาดาที่จากเดิมแทบไม่มีใครรู้จัก กลายเป็นเว็บที่ติดอันดับสูงสุดในคำค้นสำคัญของ Mortgage Canada หลังใช้กลยุทธ์ Local SEO ของ Jay & Lucy

รีวิวจากลูกค้า

Jay & Lucy มีรีวิวมากกว่า 1,500+ รีวิว บน Fiverr และยังรักษาคะแนนเฉลี่ยไว้ที่ 4.9/5 ดาว ซึ่งถือว่าสูงมากในตลาด SEO ที่แข่งขันดุเดือด ลูกค้าที่เคยใช้บริการพูดถึง 3 เรื่องหลัก ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของทีมนี้

  1. ผลลัพธ์จริงที่วัดได้

    สิ่งที่ทุกคนอยากเห็นจาก SEO ไม่ใช่แค่รายงานสวย ๆ แต่คือ ผลลัพธ์ทางธุรกิจจริง และ Jay & Lucy ก็ตอบโจทย์จุดนี้ได้ดีมาก หลายรีวิวพูดตรงกันว่า หลังจากเริ่มแคมเปญเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็เห็นการเปลี่ยนแปลง เช่น

    • มีบริษัทหนึ่งบอกว่า Qualified Leads เพิ่มขึ้นถึง 340% และยอดขายโตขึ้นกว่า 4.7X ภายใน 8 สัปดาห์

    • อีกรีวิวเล่าว่า จากที่เว็บแทบไม่มีตัวตนใน Google วันนี้ไม่เพียงติดหน้าแรก แต่ยังได้ คีย์เวิร์ดแข่งขันสูงอันดับ #1

  2. Communication และ Transparency

    SEO เป็นงานที่ลูกค้าหลายคนกังวล เพราะมักจะมีการ “ทำงานอยู่เบื้องหลัง” จนตรวจสอบยาก แต่ Jay & Lucy โดดเด่นตรงนี้มาก ลูกค้าหลายรายชื่นชมว่า:

    • ตอบไวทุกข้อความ ไม่ว่าจะเป็นคำถามเล็กน้อยหรือคำถามเชิงลึก

    • มีการ อัปเดตความคืบหน้าเป็นระยะ ลูกค้ารู้สึกเหมือนมีทีมงาน SEO อยู่ข้าง ๆ

    • ส่ง รายงานโปร่งใส ตรวจสอบได้จริง โดยแสดงทุกลิงก์ที่สร้าง ไม่ปิดบัง

    หนึ่งในรีวิวเขียนไว้ว่า “นี่คือเอเจนซี่ SEO เจ้าแรกที่กล้าโชว์ทุกลิงก์ที่ทำ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพงานและความโปร่งใส

  3. Strategic Thinking

    สิ่งที่ทำให้ Jay & Lucy แตกต่างคือ พวกเขาไม่ได้คิดแค่ “ทำลิงก์ให้ครบตามจำนวน” แต่จะวิเคราะห์ปัญหาและโอกาสของแต่ละธุรกิจจริง ๆ เช่น

    • ถ้าเว็บมี Traffic แต่ Conversion ต่ำ พวกเขาจะปรับกลยุทธ์เน้นลิงก์ที่ช่วยสร้าง Authority และ Brand Trust

    • ถ้าเว็บใหม่ที่ยังไม่มีตัวตน Jay & Lucy จะใช้ Diversified Backlinks + Guest Posts ที่เกี่ยวข้องกับ niche เพื่อเร่ง Index และสร้างฐานที่มั่นคง

    • ถ้าเป็นเว็บที่เจอปัญหา Algorithm Update พวกเขาจะปรับ Anchor Diversity และใช้ Drip Feed Indexing เพื่อทำให้โปรไฟล์ลิงก์กลับมาดูธรรมชาติ

    ลูกค้าหลายคนเรียกพวกเขาว่า “SEO Strategists มากกว่า SEO Link Builders”

ถ้าคุณกำลังมองหาการทำ SEO ที่ไม่ใช่แค่ “ยิงลิงก์” แต่เป็น การสร้างกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อธุรกิจ Jay & Lucy คือคู่หูที่ตอบโจทย์ที่สุด พวกเขาพิสูจน์แล้วว่าทำให้แบรนด์ระดับโลกโตแบบก้าวกระโดด และวันนี้เว็บไทยก็สามารถเข้าถึงบริการเดียวกันได้ง่าย ๆ

Jay & Lucy คือ SEO Agency ที่ไม่ได้ขายแค่ Backlinks แต่ขาย “การเปลี่ยนเกมธุรกิจ” ผ่านกลยุทธ์ SEO ที่ทันสมัยที่สุด

ดันอันดับเว็บไทยด้วย dofollow SEO backlinks เทคนิคเฉพาะของ Miranda

 หลายคนที่ทำเว็บไซต์ในไทยคงเจอปัญหาเดียวกันคือ อยากให้เว็บติดหน้าแรก Google แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี จะจ้างเอเจนซี่ในไทยก็ราคาแรง บางเจ้าก็ใช้วิธีลัดที่เสี่ยงโดน Google ลงโทษ ยิ่งถ้าใครทำเว็บสายขายของหรือทำบล็อกหารายได้ การลงทุนแบบผิดทางอาจทำให้เสียทั้งเงินและเวลา

ช่วงหลัง ๆ ผมเห็นหลายเจ้าของเว็บไทยเริ่มหันไปใช้บริการจาก Fiverr ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ระดับโลก ข้อดีคือเราจะได้เจอกับผู้เชี่ยวชาญจริง มีรีวิวจากลูกค้าเป็นพัน ๆ คน และมีรายละเอียดแพ็กเกจชัดเจน ที่สำคัญราคาก็จับต้องได้ เริ่มต้นเพียงไม่กี่พันบาทก็สามารถเข้าถึงเทคนิค SEO ระดับสากลได้แล้ว

คลิกสอบถาม/ดูแพ็กเกจลิงก์คุณภาพ

หนึ่งในคนที่ถูกพูดถึงเยอะมากคือ Miranda ผู้เชี่ยวชาญ SEO จากสหรัฐฯ ที่มีประสบการณ์กว่า 11 ปี จุดเด่นของเธอคือเทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า LatticeWork Technique สำหรับสร้าง dofollow SEO backlinks แบบ White Hat ซึ่งหลายคนที่ใช้บริการบอกตรงกันว่าช่วยให้เว็บค่อย ๆ ขยับอันดับขึ้นอย่างมั่นคงและปลอดภัย

LatticeWork Technique คืออะไร

เวลาพูดถึง Backlinks หลายคนมักคิดว่า “ยิ่งเยอะยิ่งดี” แต่จริง ๆ แล้ว Google ฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ มันไม่ได้มองแค่จำนวน แต่มองว่าลิงก์นั้น ๆ มี คุณภาพ ความเกี่ยวข้อง (Relevance) และความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) หรือที่คนในวงการเรียกสั้น ๆ ว่า E-A-T

Miranda จึงพัฒนา LatticeWork Technique ซึ่งเปรียบเหมือนการสานตาข่ายรอบเว็บไซต์ทีละชั้น ๆ เพื่อทำให้ Google เห็นว่าเว็บของคุณมีฐานที่แข็งแรง ไม่ใช่ได้ลิงก์พรวดเดียวจากที่ไหนก็ไม่รู้

ในเทคนิคนี้จะประกอบด้วยหลายชั้น เช่น

  • Foundation Tiered Backlinks
    เริ่มต้นด้วยการสร้างฐานลิงก์จากแหล่งทั่วไป แต่มีค่า DA (Domain Authority) ที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้เว็บมี footprint ที่มั่นคงในสายตา Google

  • Contextual SEO Backlinks และ Web 2.0
    เสริมด้วยลิงก์จากบทความ คอนเทนต์ และแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานจริง ทำให้ลิงก์มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ

  • Brand Mentions และ Social Signals
    กระจายชื่อแบรนด์ของคุณไปตามโลกออนไลน์ เช่น การแชร์บนโซเชียลหรือพูดถึงในบล็อกต่าง ๆ เพื่อให้ Google มองว่าเว็บไซต์นี้มีตัวตนจริง

  • Mix of Nofollow & Dofollow
    จุดที่หลายคนมองข้ามคือการผสมทั้งลิงก์ dofollow และ nofollow ให้สมดุล เพราะในโลกจริง ไม่มีเว็บไซต์ไหนมีแต่ dofollow 100% การสร้างโปรไฟล์ลิงก์ที่ “ดูธรรมชาติ” จึงเป็นหัวใจสำคัญ

ที่สำคัญ Miranda จะทำทุกอย่างแบบ Manual และ Drip-feed ค่อย ๆ ปล่อยลิงก์ทีละน้อยในช่วง 2–3 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการที่ Google มองว่าเป็น Spam Attack

Workflow การทำงานของ Miranda

Workflow การทำงานของ Miranda

สิ่งที่ผมชอบมากคือ Miranda ไม่ได้ทำงานแบบ “กดปุ่มแล้วเสร็จ” แต่เธอมี Workflow ที่ชัดเจน เริ่มตั้งแต่

  1. การเก็บข้อมูลจากลูกค้า
    ลูกค้าจะต้องส่ง URL, Keywords และข้อมูลเบื้องต้นของธุรกิจมาให้ ถ้าไม่มีคีย์เวิร์ด Miranda ก็จะช่วยทำ Keyword Research เพิ่มเติมให้

  2. การวางแผน Backlink Strategy
    เธอจะดูว่านิชธุรกิจของลูกค้าแข่งแค่ไหน แล้วเลือกโครงสร้าง LatticeWork ที่เหมาะสม เช่น เว็บใหม่อาจต้องเน้น Foundation มากกว่า ส่วนเว็บเก่าแข่งสูงจะได้ Backlink ที่เข้มข้นขึ้น

  3. Manual Link Building
    ทุกลิงก์สร้างด้วยมือ ไม่มีบอท ไม่มี PBN และมีการคัดเลือก DA ที่เหมาะสม ไม่ใช่ปั๊มแต่ DA 90+ อย่างเดียวเพราะอาจเสี่ยงต่อการโดนตรวจสอบ

  4. Drip-feeding
    ลิงก์จะค่อย ๆ ปล่อยในช่วงเวลา 10–21 วัน เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด

  5. Detailed Report
    หลังจบงาน ลูกค้าจะได้รายงานละเอียดว่าลิงก์อยู่ที่ไหน ใช้ Anchor Text อะไร ค่า DA เท่าไหร่ และสามารถตรวจสอบได้เองทั้งหมด

แพ็กเกจที่ยืดหยุ่น

Miranda มีแพ็กเกจ 3 ระดับที่ตอบโจทย์ต่างกัน

  • Basic – Tin-LatticeWork (50 Backlinks)
    เหมาะกับเว็บใหม่หรือ Blogger ที่อยากสร้างฐาน SEO

  • Standard – Titanium-LatticeWork (100 Backlinks)
    เหมาะกับธุรกิจที่มี Traffic อยู่แล้วและต้องการเพิ่ม Keyword แข่งกลาง ๆ

  • Premium – Tungsten-LatticeWork (150 Backlinks)
    สำหรับตลาดแข่งขันสูง เช่น อสังหา การเงิน หรืออีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่

ราคาจะอยู่ที่ $95 – $295 (ประมาณ 3,500 – 10,500 บาท) ซึ่งถือว่าคุ้มมากถ้าเทียบกับการจ้างเอเจนซี่ในไทยที่เริ่มหลักหมื่น

Case Study ที่น่าสนใจ

Outlook Project

หนึ่งในโปรเจกต์ที่ถูกพูดถึงมากคือ Outlook Project ซึ่งเริ่มจากการมี Traffic ประมาณ 900,000 ผู้เข้าชมต่อเดือนอยู่แล้ว เรียกได้ว่าไม่ใช่เว็บเล็ก ๆ เลย แต่ปัญหาคือการเติบโตเริ่มชะลอตัว ไม่สามารถขยับอันดับคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ ได้

Miranda เข้าไปวิเคราะห์และเลือกใช้ LatticeWork Technique ผสมผสานการทำ Tiered Backlinks และ Contextual Links เพื่อเพิ่มความหลากหลายของลิงก์ในโปรไฟล์เว็บไซต์ ภายในเวลาเพียง 3 เดือน Traffic ของเว็บทะยานจาก 900k ไปแตะ 1.7M หรือเกือบ เท่าตัว ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าการทำ SEO ที่เป็นระบบและปลอดภัยสามารถสร้างผลลัพธ์มหาศาลได้แม้ในเว็บไซต์ที่มีฐานผู้เข้าชมใหญ่อยู่แล้ว

LECHERY (แฟชั่นผู้หญิง)

แบรนด์เสื้อผ้าสตรี LECHERY เจอปัญหาใหญ่คือเว็บมีดีไซน์สวย แต่ Organic Traffic ต่ำมาก ติดปัญหาไม่สามารถแข่งขันกับเจ้าใหญ่ในวงการแฟชั่นได้ Miranda จึงเข้ามาช่วยทำ SEO Optimization ตั้งแต่การเลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสายแฟชั่น ไปจนถึงการสร้าง Backlinks ที่มี Relevance สูง

ผลลัพธ์ที่ได้คือ Organic Traffic ของเว็บเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า ภายในไม่กี่เดือน จากที่เคยแทบไม่มีใครค้นเจอ กลายเป็นว่ามีลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาผ่าน Google Search อย่างต่อเนื่อง ช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้จริง

Nile Cruisers (ธุรกิจท่องเที่ยว)

Nile Cruisers ซึ่งทำธุรกิจล่องเรือท่องเที่ยวเผชิญปัญหาด้าน Online Reputation หรือชื่อเสียงออนไลน์ เพราะมีผลลัพธ์เชิงลบปรากฏอยู่บน Google เวลาเสิร์ชชื่อแบรนด์

Miranda ใช้กลยุทธ์ Reputation Management SEO โดยสร้างลิงก์คุณภาพสูงและผลักดันคอนเทนต์เชิงบวกขึ้นมาแทนที่คอนเทนต์ลบ พร้อมกับกระจาย Brand Mention ไปยังหลายแพลตฟอร์ม ทำให้ Google ค่อย ๆ ลดความสำคัญของคอนเทนต์ลบลง และแสดงคอนเทนต์บวกขึ้นมาแทน

ผลลัพธ์คือแบรนด์กลับมาดูแข็งแรงอีกครั้งในสายตาลูกค้า ไม่เพียงแค่แก้ปัญหาชื่อเสียง แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจด้วย

รีวิวจากลูกค้า

รีวิวจากลูกค้า

สิ่งที่ทำให้บริการของ Miranda แตกต่างจนได้คะแนน 4.9/5 จากรีวิวกว่า 3,400+ ครั้ง มาจาก 3 เรื่องหลัก ๆ ที่ลูกค้าพูดถึงบ่อยที่สุด

Communication ดีเยี่ยม

ลูกค้าส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า Miranda สื่อสารชัดเจน ตอบไว และอัปเดตความคืบหน้าในทุกขั้นตอน ทำให้ผู้ว่าจ้างรู้สึกมั่นใจว่าเงินที่ลงทุนไปไม่สูญเปล่า

รายงานโปร่งใส ตรวจสอบได้จริง

อีกจุดที่ทำให้ Miranda ได้คะแนนสูงมากคือเรื่อง Transparency หลังงานเสร็จจะส่งรายงานละเอียดทุกลิงก์ที่สร้างให้ พร้อมค่า DA และ Anchor Text ที่ใช้ ลูกค้าหลายคนย้ำว่า “นี่คือ SEO เจ้าแรกที่กล้าโชว์ทุกลิงก์จริงแบบไม่กั๊ก”

ผลลัพธ์ระยะยาว

ถึงแม้ผลลัพธ์ของ SEO จะไม่ได้พุ่งแรงทันที แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนภายใน 1–2 เดือน เว็บไซต์ค่อย ๆ ขยับอันดับขึ้นแบบมั่นคงและไม่เสี่ยงโดน Google Penalty ซึ่งต่างจากบริการราคาถูกที่มักทำ SEO แบบเสี่ยง ๆ

⭐⭐⭐⭐⭐
จากรีวิวกว่า 3,298 ครั้งที่ให้ 5 ดาว ลูกค้าหลายรายบอกว่าบริการของ Miranda ไม่เพียงแค่ “ทำงานครบตามสัญญา” แต่ยังเกินความคาดหวัง ทั้งคุณภาพของลิงก์และการให้คำแนะนำเพิ่มเติม

ทำไมคนไทยควรลอง Miranda

  1. ราคาคุ้มค่า – เริ่มต้นไม่ถึง 4,000 บาท แต่ได้เทคนิค SEO ระดับสากล

  2. โปร่งใส ปลอดภัย – White Hat 100% ไม่มี PBN ไม่มี Spam Link

  3. เหมาะกับธุรกิจเล็ก-กลาง – โดยเฉพาะเจ้าของเว็บสายขายของ ร้านค้าออนไลน์ หรือ Blogger ที่อยากสร้างฐาน SEO เอง

  4. รีวิวแน่นกว่า 3,000+ งาน – ทำให้อุ่นใจว่ามีผลงานจริง ไม่ใช่ขายฝัน

ถ้าคุณกำลังหาคนทำ dofollow SEO backlinks ที่ปลอดภัย โปร่งใส และช่วยให้เว็บไทยโตแบบมั่นคง Miranda คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจบน Fiverr การมี LatticeWork Technique ทำให้การสร้างลิงก์เป็นระบบ มีความเป็นธรรมชาติ และไม่เสี่ยงโดน Google ลงโทษ

บางทีเงินเพียงไม่กี่พันบาทก็อาจเป็นการลงทุนที่ช่วยดันเว็บไซต์ของคุณให้ขึ้นหน้าแรก Google ได้จริงในอนาคต และนั่นอาจเปลี่ยนโฉมธุรกิจออนไลน์ของคุณไปเลยก็ได้ครับ


รีวิว Randy M.: อีกหนึ่งทางเลือก “Backlink คุณภาพสูง” บน Fiverr Pro ที่สาย SEO ไม่ควรพลาด

  

หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้าน Backlink บนแพลตฟอร์ม Fiverr คุณอาจเคยได้ยินชื่อ Jacob M. มาแล้ว แต่ในตลาดที่เต็มไปด้วยผู้ขายระดับโลก ยังมีอีกหนึ่งคนที่โดดเด่นไม่แพ้กัน นั่นคือ Randy M. ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ระดับ Fiverr Pro เช่นกัน และมีประสบการณ์การทำงานกับลูกค้ารายใหญ่ระดับองค์กร รวมถึงอดีตการทำงานใน Google

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกบริการของ Randy M. เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าเขามีจุดเด่นอะไรบ้าง และแตกต่างจากผู้ขายคนอื่นอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าการลงทุนทำ Backlink กับเขาจะคุ้มค่าและตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจของคุณหรือไม่

1. ใครคือ Randy M.? โปรไฟล์ที่น่าจับตามองของ “อดีตพนักงาน Google”

สิ่งที่ทำให้ Randy M. แตกต่างจากผู้ขายทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดคือประวัติการทำงานของเขา เขาได้รับการประเมินจาก Fiverr ให้เป็นผู้ขายระดับ Fiverr Pro ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ การที่เขามีประสบการณ์ทำงานกับบริษัทชั้นนำอย่าง Google และลูกค้ารายใหญ่ระดับ Enterprise รวมถึงมีเคสตัวอย่างที่น่าสนใจอย่างการทำ SEO ให้กับ Huawei และ RE/MAX ยิ่งทำให้โปรไฟล์ของเขามีความน่าเชื่อถือสูงมากในสายตาของนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจ

นอกจากนี้ Randy ยังมีรีวิวจากลูกค้ามากกว่า 2,000 ราย ด้วยคะแนนเฉลี่ยสูงถึง 4.9 ดาว ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร (US, UK) ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงด้าน SEO การที่เขาได้รับคำชมอย่างสม่ำเสมอในตลาดเหล่านี้จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงผลลัพธ์ที่แท้จริง

2. ทำไมบริการ Backlink ของ Randy M. จึงแตกต่าง?

แม้ว่าทั้ง Randy M. และ Jacob M. จะเน้นการสร้าง Backlink คุณภาพแบบ White Hat แต่ Randy ก็มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในเรื่องของประเภทลิงก์และกลยุทธ์การทำงาน

2.1 เน้น “In-Content Links” แบบบทความคุณภาพสูง

จุดเด่นสำคัญของ Randy คือการสร้างลิงก์แบบ In-Content Editorial Style Link หรือการใส่ลิงก์ของคุณเข้าไปในเนื้อหาบทความใหม่ที่เขียนขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นวิธีที่ Google ให้ความสำคัญและมีน้ำหนักมากที่สุด เพราะลิงก์จะดูเป็นธรรมชาติและมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาโดยตรง

Randy ระบุชัดเจนว่าเขาจะ "craft the perfect informative article" หรือเขียนบทความที่มีคุณภาพสูงเพื่อให้เข้ากับแนวทางของเว็บไซต์ปลายทาง และไม่ใช่แค่การใส่ลิงก์ใน Author Box หรือส่วนท้ายของบทความที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งนี่คือมาตรฐานการทำ Link Building ระดับมืออาชีพที่ปลอดภัยที่สุด

2.2 โฟกัส Backlink จากเว็บที่มี Traffic สูงและ Relevance

นอกจากค่า Domain Authority (DA) ที่สูงตั้งแต่ DA30+ ไปจนถึง DA50+ ขึ้นไปแล้ว Randy ยังเน้นการเลือกเว็บไซต์ที่มี Organic Signals และ Monthly Traffic ที่มีคุณภาพ โดยระบุว่าเว็บไซต์ที่เขาเลือกจะมีทราฟฟิกต่อเดือนตั้งแต่ 5,000 ไปจนถึง 1 ล้านคน หรือมากกว่านั้น ซึ่งการได้ลิงก์จากเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมจริงย่อมมีค่ามากกว่าการได้ลิงก์จากเว็บที่มี DA สูงแต่ไม่มี Traffic เลย

เขายังเน้นการทำ Backlink จากเว็บไซต์ที่มีฐานผู้ใช้ในตลาดหลักอย่าง US, UK, CA, และ AUS ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของ Google ในการประเมินความน่าเชื่อถือจากแหล่งที่มีความเกี่ยวข้องและมีทราฟฟิกจริงในท้องถิ่น

2.3 การทำงานแบบ “Genuine Outreach”

Randy อธิบายวิธีการทำงานของเขาว่าเป็น Genuine Outreach หรือการติดต่อประสานงานกับบรรณาธิการและเจ้าของเว็บไซต์โดยตรงเพื่อหาโอกาสในการลงบทความ ซึ่งเป็นวิธีการที่ต้องใช้เวลาและทักษะในการเจรจา แต่ให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและปลอดภัย ต่างจากการใช้โปรแกรมอัตโนมัติหรือ PBN (Private Blog Network) ที่อาจส่งผลเสียในระยะยาว

3. แพ็กเกจและราคา: ลงทุนที่คุ้มค่ากับการทำ SEO ระยะยาว

Randy M. มีแพ็กเกจที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย โดยราคาจะขึ้นอยู่กับค่า DA ของเว็บไซต์ปลายทางที่คุณเลือก ซึ่งเป็นวิธีที่ยุติธรรมและโปร่งใส

  • แพ็กเกจ Basic: Backlink 1 ลิงก์จากเว็บ DA30-39 ราคา $250

  • แพ็กเกจ Standard: Backlink 1 ลิงก์จากเว็บ DA40-49 ราคา $500

  • แพ็กเกจ Premium: Backlink 1 ลิงก์จากเว็บ DA50-59 ราคา $750

ทุกแพ็กเกจจะมาพร้อมกับบทความคุณภาพความยาว 500 คำ และลิงก์แบบ Dofollow 1 ลิงก์ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับการได้ลิงก์จากเว็บไซต์ที่มีทราฟฟิกจริงและเป็นไปตามหลักการทำ SEO ที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ Randy ยังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องการสั่ง Backlink ตั้งแต่ 2 ลิงก์ขึ้นไป โดยให้ราคาแบบ Discounted Rates ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับธุรกิจที่ต้องการลงทุนในระยะยาว


4. รีวิวจากลูกค้าจริง: เสียงสะท้อนจากหลากหลายธุรกิจ

สิ่งที่ยืนยันคุณภาพของ Randy ได้ดีที่สุดคือรีวิวจากลูกค้าจริง โดยคำชมที่พบได้บ่อยมีดังนี้:

  • "Go-to guy for anything SEO-related": ลูกค้าหลายรายกลับมาใช้บริการซ้ำ และมองว่า Randy เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้ในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ SEO

  • "Links he establishes are legitimate": ลูกค้ามั่นใจว่าลิงก์ที่ได้รับนั้นเป็นของแท้ ไม่ใช่ลิงก์สแปมที่สร้างขึ้นมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

  • "Goes above and beyond": Randy มักจะให้บริการที่เกินความคาดหวัง เช่น การแก้ไขปัญหา SEO อื่นๆ ให้โดยที่ไม่ได้ร้องขอ

  • "Excellent work on disavowing toxic backlinks": นอกจาก Backlink ใหม่แล้ว ลูกค้ายังประทับใจในบริการ Disavow หรือการปฏิเสธลิงก์ที่ไม่ดี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญที่ลึกซึ้ง

  • "Responsive and professional": การสื่อสารที่รวดเร็วและเป็นมืออาชีพเป็นสิ่งที่ลูกค้าหลายรายชื่นชม

รีวิวเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Randy ไม่ได้เป็นแค่ผู้ขาย Backlink แต่เป็น ที่ปรึกษาด้าน SEO ที่แท้จริง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาและให้คำแนะนำที่สร้างผลลัพธ์ได้อย่างยั่งยืน

5. ข้อดี-ข้อเสีย: สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ

เช่นเดียวกับทุกบริการ การพิจารณาข้อดีและข้อเสียอย่างรอบด้านจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

5.1 ข้อดี

คุณภาพลิงก์สูง: เน้น Backlink จากเว็บไซต์ที่มีทั้งค่า DA สูง และมีทราฟฟิกจริง ซึ่งมีน้ำหนักต่อ SEO มากกว่า

ปลอดภัย 100%: ทำงานด้วยกลยุทธ์ White Hat แบบ Genuine Outreach ไม่พึ่งพา PBN หรือ Spam Links

ความน่าเชื่อถือสูง: ผ่านการคัดเลือกเป็น Fiverr Pro และมีรีวิวเชิงบวกจากลูกค้ารายใหญ่และลูกค้าที่ใช้บริการซ้ำจำนวนมาก

บทความคุณภาพ: Backlink มาพร้อมกับบทความที่เขียนขึ้นใหม่ มีความยาว 500 คำ และเป็นไปตามหลักการทำ SEO

เชี่ยวชาญเฉพาะทาง: มีประสบการณ์ในการทำ SEO ให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม และครอบคลุมบริการอื่นๆ เช่น On-page SEO และ Local SEO

5.2 ข้อเสีย

⚠️ ราคาค่อนข้างสูง: เมื่อเทียบกับผู้ขายทั่วไป ราคาเริ่มต้นที่ $250 ต่อ 1 ลิงก์ถือว่าสูง แต่ก็แลกมาด้วยคุณภาพและความปลอดภัยที่เหนือกว่า

⚠️ ไม่ใช่ลิงก์จากเว็บเฉพาะกลุ่ม (Niche Specific): บริการของ Randy อาจจะไม่ได้เจาะจง Niche ที่แคบมากนัก ซึ่งหากคุณต้องการลิงก์จากเว็บที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณโดยตรง อาจต้องมีการพูดคุยเพิ่มเติม

⚠️ ใช้เวลาในการส่งงาน: การทำงานแบบ Genuine Outreach และการเขียนบทความใหม่ต้องใช้เวลา โดยแต่ละลิงก์ใช้เวลาประมาณ 30 วัน ซึ่งอาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วน

6. สรุป: Randy M. เหมาะกับใคร?

จากข้อมูลทั้งหมด Randy M. เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Backlink ที่โดดเด่นและน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาวและให้ความสำคัญกับ คุณภาพและความปลอดภัย เหนือสิ่งอื่นใด

Randy M. เหมาะกับ:

  • ธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ (SMB - Enterprise): ที่มีงบประมาณสำหรับการตลาดและต้องการ Backlink ระดับพรีเมียมเพื่อแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

  • ผู้ที่ต้องการ Backlink ที่มี Traffic และ Relevance: ไม่ได้มองหาแค่ค่า DA สูงๆ แต่ต้องการลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมจริง

  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยั่งยืน: ยินดีที่จะรอผลลัพธ์ในระยะยาว เพื่อแลกกับความปลอดภัยและการเติบโตที่มั่นคงของเว็บไซต์

  • ผู้ที่เคยมีปัญหา Backlink ไม่ดี: และต้องการผู้เชี่ยวชาญมาช่วยแก้ไขโปรไฟล์ Backlink ให้กลับมาสะอาดและปลอดภัย

ถ้าคุณพร้อมที่จะลงทุนกับ Backlink ที่มีคุณภาพสูงและต้องการทำงานกับผู้เชี่ยวชาญที่มีโปรไฟล์แข็งแกร่งและประสบการณ์ตรงจาก Google Randy M. บน Fiverr Pro คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุดที่คุณไม่ควรมองข้าม

ติดหน้าแรก Google ด้วย Backlink คุณภาพสูง DA50+ แบบ White Hat

หากคุณกำลังมองหาวิธีพาเว็บไซต์ขึ้นอันดับ Google แบบปลอดภัยและยั่งยืน คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “การทำ Backlink คุณภาพ” คือหัวใจสำคัญของ SEO Off-page แต่ปัญหาคือ…ในตลาดออนไลน์เต็มไปด้วยลิงก์ราคาถูก ลิงก์สแปม และบริการที่ไม่โปร่งใส จนเจ้าของเว็บจำนวนมากลงทุนไปแล้ว ไม่เห็นผล หรือแย่กว่านั้นคือโดน Google เพนัลไทส์ (Penalty)

วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับ Jacob M. ฟรีแลนซ์จาก Fiverr Pro ที่เชี่ยวชาญด้าน SEO มานานกว่า 14 ปี และได้รับรีวิวระดับ 4.9 ดาวจากลูกค้ากว่า 3,600 ราย เขามีบริการสร้าง Dofollow Backlinks จากเว็บ DA50+ ขึ้นไป แบบ Manual & White Hat 100% ไม่พึ่ง PBN หรือ Spam Links ซึ่งแตกต่างจากบริการทั่วไปที่คุณอาจเคยเห็น

ลองมาดูกันครับว่า บริการของ Jacob ดีจริงหรือไม่? เหมาะกับใคร? และมีข้อดีข้อเสียอะไรที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจ

1. ทำไม Backlink คุณภาพถึงสำคัญกับ SEO?

ถ้าเปรียบเทียบการทำ SEO กับการสร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ Backlink ก็คือ “เสียงการแนะนำ” จากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่บอกกับ Google ว่าเว็บของคุณน่าเชื่อถือจริง ไม่ต่างจากการที่คนดังหรือผู้เชี่ยวชาญออกมารับรองธุรกิจของคุณ ยิ่งมีคนแนะนำเยอะ และมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือมากเท่าไหร่ Google ก็ยิ่งให้ “คะแนนความน่าเชื่อถือ” มากขึ้นตามไปด้วย

Backlink ถูก vs Backlink คุณภาพ

  • 🔴 Backlink ราคาถูก (สแปมลิงก์)

    • มักมาจากเว็บที่ไม่มีคุณภาพ เช่น เว็บบอร์ดร้าง ฟอรั่มสแปม หรือ PBN (Private Blog Network)

    • จำนวนเยอะก็จริง แต่ไม่ได้ช่วย SEO เท่าไหร่ แถมเสี่ยงโดน Google ลงโทษ (Penalty) ทำให้อันดับตกแทนที่จะขึ้น

  • 🟢 Backlink คุณภาพ (White Hat)

    • มาจากเว็บไซต์ที่มี Domain Authority (DA) สูง เช่น DA50+ ขึ้นไป

    • ได้รับการทำแบบ Manual Link Building ไม่ใช่ใช้บอทยิงลิงก์

    • มีความหลากหลาย เช่น โปรไฟล์ลิงก์, เอกสารแชร์, ไฟล์พรีเซนต์, เว็บไซต์ธุรกิจ ฯลฯ

    • ถึงจะไม่เยอะเท่าลิงก์สแปม แต่ มีน้ำหนักมากกว่าและปลอดภัยต่อ SEO ระยะยาว

Google มอง Backlink ยังไง?

Google ใช้ Backlink เป็น หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดของการจัดอันดับ (Ranking Factor) มานานแล้ว และยังคงสำคัญอยู่จนทุกวันนี้ โดยลิงก์คุณภาพจะช่วย:

  • เพิ่มความน่าเชื่อถือ (Authority) ของเว็บไซต์

  • ส่งสัญญาณความเกี่ยวข้อง (Relevance) ของเนื้อหา

  • ช่วยดันให้คีย์เวิร์ดติดอันดับได้เร็วและมั่นคงขึ้น

ดังนั้น ถ้าคุณลงทุนกับ Backlink ที่ถูกวิธี อย่างเช่นบริการของ Jacob M. บน Fiverr Pro ก็เหมือนคุณกำลังสร้างรากฐาน SEO ที่แข็งแรง ซึ่งคุ้มค่ากว่าการเลือกบริการราคาถูกที่อาจทำให้เว็บไซต์เสียหายในระยะยาว

2. จุดเด่นบริการของ Jacob M. บน Fiverr Pro


การหาคนทำ Backlink บน Fiverr ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีผู้ขายนับพันราย แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการหา “ตัวจริง” ที่เชื่อถือได้ และทำงานสาย White Hat แท้จริง ซึ่ง Jacob M. โดดเด่นเหนือกว่าคนอื่นด้วยเหตุผลเหล่านี้

2.1 ประสบการณ์กว่า 14 ปีในวงการ SEO

Jacob ไม่ใช่ฟรีแลนซ์ทั่วไป แต่เป็นคนที่ทำ SEO มานานกว่า 14 ปี ผ่านการทำงานกับธุรกิจหลายขนาด ตั้งแต่ Local SEO ไปจนถึง International Campaign ประสบการณ์ตรงนี้ทำให้เขาเข้าใจว่า ลิงก์แบบไหนช่วยดันอันดับได้จริง และแบบไหนที่ควรเลี่ยง

2.2 Fiverr Pro Seller – ผ่านการคัดเลือกโดยทีมงาน Fiverr

บน Fiverr มีผู้ขายจำนวนมาก แต่มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น Fiverr Pro ซึ่งหมายความว่า Jacob ผ่านการตรวจสอบด้านคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และผลงานจริงมาแล้ว การันตีว่าไม่ใช่มือสมัครเล่นที่ทำลิงก์แบบเสี่ยงๆ

2.3 Dofollow Backlinks จากเว็บ DA50+ ขึ้นไป

หนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้บริการนี้โดดเด่นคือ ทุกลิงก์มาจากเว็บที่มี DA50+ ซึ่งวัดจากเครื่องมือ Moz โดยตรง ยิ่ง DA สูง ยิ่งมี “น้ำหนัก SEO” มาก การได้ลิงก์จากเว็บเหล่านี้จึงช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของโดเมนคุณแบบชัดเจน

นอกจากนี้ Jacob ยังมีแพ็กเกจพิเศษที่ให้ลิงก์จากเว็บ DA80+ และ DA90+ ซึ่งหายากมากและมีมูลค่าสูง

2.4 Manual Link Building – ปลอดภัย 100%

บริการของ Jacob เน้นการทำลิงก์แบบ Manual คือสร้างเองทุกขั้นตอน ไม่มีการใช้บอท หรือเครื่องมือสแปม การทำงานลักษณะนี้นอกจากจะปลอดภัยต่อการโดน Google Penalty แล้ว ยังช่วยให้ลิงก์ดูเป็นธรรมชาติและยั่งยืนในระยะยาว

2.5 รายงานละเอียด พร้อมตรวจสอบได้จริง

สิ่งที่ลูกค้าชื่นชอบคือ Jacob จะส่ง รายงาน (Report) หลังงานเสร็จ ซึ่งมีรายละเอียดครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น

  • เว็บไซต์ที่สร้างลิงก์

  • ค่า DA ของแต่ละเว็บ

  • รายละเอียดการล็อกอิน (ถ้ามี)
    ทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้เอง แตกต่างจากบริการราคาถูกที่มักจะส่งลิงก์มั่วๆ โดยตรวจสอบไม่ได้

3. สิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อสั่งบริการของ Jacob M.

หลายคนที่เคยลองซื้อ Backlink ราคาถูก มักเจอปัญหาว่าได้ลิงก์ที่ตรวจสอบไม่ได้ หรือเป็นเว็บสแปมที่ไม่มีประโยชน์ แต่สิ่งที่ทำให้ Jacob แตกต่างคือเขามี แพ็กเกจที่ชัดเจน โปร่งใส และตรวจสอบได้จริง

3.1 จำนวนลิงก์ที่ได้รับ

Jacob ให้บริการสร้าง 90 ลิงก์ Dofollow บนเว็บไซต์ที่มี DA50+ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่กำลังดี ไม่มากจนดูผิดธรรมชาติ และไม่ใช่จำนวนน้อยจนไม่เห็นผล

นอกจากนี้ หากคุณต้องการ ลิงก์ระดับพรีเมียม ยังสามารถเลือกอัปเกรดเพื่อรับลิงก์จากเว็บ DA80+ และ DA90+ ได้ ซึ่งเป็นของหายากในตลาด และมักมีผลต่อ SEO ที่เด่นชัดกว่า

3.2 ความหลากหลายของประเภทลิงก์

บริการของ Jacob ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำโปรไฟล์ลิงก์ทั่วไป แต่ยังรวมไปถึงหลากหลายแหล่งที่ Google มองว่าน่าเชื่อถือ เช่น

  • 🌐 High DA Profile Links – การสร้างโปรไฟล์ในเว็บ Authority

  • 🖼️ Image Submission Links – แชร์ภาพบนเว็บที่มีระบบจัดเก็บและจัดอันดับ

  • 📑 Document & PPT Sharing Links – การอัปโหลดไฟล์ PDF/PPT ไปยังแพลตฟอร์มที่มี DA สูง

  • 🎧 Audio Sharing Links – แชร์ไฟล์เสียงบนเว็บคุณภาพ

  • 🏢 Business Citation Links (ออปชัน) – เหมาะกับ Local SEO เพื่อยืนยันตัวตนธุรกิจ

ความหลากหลายนี้ช่วยทำให้โปรไฟล์ Backlink ดูเป็นธรรมชาติ และ Google ชอบมากกว่าการได้ลิงก์ซ้ำๆ ประเภทเดียว

3.3 ระยะเวลาการทำงาน (Turnaround Time)

Jacob จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในการส่งงานครบถ้วน ซึ่งเหตุผลที่ไม่เร็วเกินไปก็เพราะเขาใช้วิธี Drip Feed (ทยอยทำลิงก์ทีละน้อย) เพื่อให้ Google มองว่าการเติบโตของลิงก์เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การปั่นสแปม

3.4 รายงานงานเสร็จสมบูรณ์ (Final Report)

ลูกค้าทุกคนจะได้รับไฟล์ รายงานละเอียด ที่มีข้อมูลครบ เช่น

  • ลิงก์ทั้งหมดที่สร้าง

  • ค่า DA ของแต่ละเว็บ

  • User/Password สำหรับล็อกอิน (ถ้ามี)
    สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่า คุณได้ของจริง ไม่ใช่แค่รายงานปลอม

4. เปรียบเทียบกับการจ้างเอเจนซี่ SEO ในไทย

หลายคนอาจสงสัยว่า…ทำไมต้องจ้างฟรีแลนซ์ต่างชาติบน Fiverr ในเมื่อเมืองไทยเองก็มีเอเจนซี่ SEO อยู่แล้ว?
คำตอบสั้น ๆ คือ “ความคุ้มค่า” และ “ความโปร่งใส” ครับ

4.1 เรื่องราคา

  • เอเจนซี่ SEO ไทย – ส่วนใหญ่จะคิดค่าบริการเป็นแพ็กเกจรายเดือน เริ่มตั้งแต่ 15,000–50,000 บาท/เดือน ขึ้นไป และบางครั้งยังไม่สามารถการันตีว่าอันดับจะดีขึ้นจริง

  • Jacob บน Fiverr Pro – ราคาเริ่มต้นเพียง $100–$200 (ประมาณ 3,500–7,000 บาท) ต่อครั้ง ได้ลิงก์คุณภาพ 90 DA50+ ซึ่งถ้าเทียบต่อมูลค่าแล้ว ถือว่าถูกกว่ามาก

4.2 ความโปร่งใส

  • เอเจนซี่ในไทยมักจะบอกเพียงว่า “เราจะทำ Backlink ให้” แต่ไม่ค่อยมีรายงานละเอียดว่าได้ลิงก์จากที่ไหนบ้าง

  • Jacob ให้ รายงานครบถ้วน ลูกค้าตรวจสอบเองได้ทุกลิงก์ → มั่นใจว่าจ่ายเงินแล้วได้ของจริง

4.3 ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

  • เอเจนซี่ไทยหลายแห่งทำ SEO แบบครบวงจร (ทั้ง On-page, Content, Ads, Backlink) ซึ่งข้อดีก็คือได้บริการหลายอย่างในที่เดียว แต่ข้อเสียคืออาจไม่ได้โฟกัสกับ “การสร้าง Backlink คุณภาพ” จริง ๆ

  • Jacob โฟกัสเฉพาะ Off-page SEO และ Link Building ซึ่งทำมา 14 ปีเต็ม จึงมี Know-how และเทคนิคเฉพาะที่ทำให้ลิงก์มีน้ำหนักจริง

4.4 ความเร็วในการทำงาน

  • เอเจนซี่ไทยบางแห่งใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะส่งรายงานหรืออัปเดตผลให้ลูกค้า

  • Jacob ใช้เวลา ประมาณ 2 สัปดาห์ พร้อมรายงานละเอียด → ลูกค้าเห็นงานจริงได้เร็วกว่า

สรุปสั้น ๆ:

  • ถ้าคุณต้องการ SEO แบบครบวงจร → เอเจนซี่ไทยอาจตอบโจทย์มากกว่า

  • แต่ถ้าคุณโฟกัสที่ การทำ Backlink คุณภาพ เพื่อดันอันดับ → บริการของ Jacob บน Fiverr Pro คุ้มค่าและโปร่งใสกว่ามาก

5. รีวิวลูกค้าจริง และผลงานที่ผ่านมา



หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้บริการของ Jacob M. น่าเชื่อถือและแตกต่างจากผู้ขายทั่วไปบน Fiverr คือ เสียงตอบรับจากลูกค้าจำนวนมหาศาล ปัจจุบันเขามีรีวิวมากกว่า 3,600 รีวิว ด้วยคะแนนเฉลี่ย 4.9 ดาว ซึ่งถือว่าสูงมากในตลาด SEO

5.1 รีวิวจากลูกค้าทั่วโลก

  • 🌍 ลูกค้าจากออสเตรเลีย: ชื่นชมว่า Jacob ส่งงานได้เร็วกว่าที่กำหนด และ Backlink ที่ทำให้มีคุณภาพจริง จนเห็นอันดับขยับขึ้นในเวลาไม่นาน

  • 🇺🇸 ลูกค้าจากสหรัฐฯ: ยืนยันว่า Jacob ทำงานอย่างโปร่งใส อัปเดตทุกขั้นตอน และรายงานที่ได้ตรวจสอบได้จริง

  • 🇬🇧 ลูกค้าจากสหราชอาณาจักร: บอกว่าการทำงานร่วมกับ Jacob ราบรื่น ใส่ใจรายละเอียด และผลลัพธ์ระยะยาวดีเกินคาด

  • 🌏 ลูกค้าในเอเชีย: หลายคนเลือกใช้บริการซ้ำ (Repeat Clients) เพราะเห็นผลจริงและมั่นใจในความปลอดภัย

สิ่งที่น่าสนใจคือมีลูกค้าหลายรายใช้บริการ ซ้ำหลายครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่า Backlink ของ Jacob ไม่ใช่แค่ “ชั่วครั้งชั่วคราว” แต่สร้างผลลัพธ์ยั่งยืน

5.2 ผลงานจริงที่น่าจับตา

  • 🏗️ EverStrong Roofing (Local SEO)

    • เว็บไซต์เล็ก ๆ ของบริษัทช่างซ่อมหลังคาในอเมริกา

    • หลังจาก Jacob เข้ามาปรับ On-page SEO และทำ Backlink คุณภาพอย่างต่อเนื่องภายใน 6 เดือน

    • Organic Traffic เพิ่มขึ้นกว่า 900%

    • คีย์เวิร์ดท้องถิ่นหลายคำติดหน้าแรก Google และมีลูกค้าใหม่เข้ามาผ่านเว็บจริง

  • 🏢 Elite Properties Dubai (Real Estate SEO)

    • ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในดูไบ ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่แข่งขันสูง

    • Jacob ใช้กลยุทธ์ Off-page SEO + Link Building เพื่อเสริมความแข็งแรงของเว็บ

    • ผลลัพธ์คือเว็บติดอันดับคีย์เวิร์ดสำคัญหลายคำภายในไม่กี่เดือน ทำให้การเข้าชมเว็บและการสอบถามลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นชัดเจน

5.3 คำชมที่พบบ่อยที่สุด

เมื่อลองอ่านรีวิว จะเห็นคำพูดที่โผล่มาบ่อยมาก เช่น

  • “High Quality Backlinks” → ลิงก์มีคุณภาพจริง ตรวจสอบได้

  • “Safe & White Hat” → ลูกค้ามั่นใจว่าไม่เสี่ยงโดน Google ลงโทษ

  • “Great Communication” → Jacob ตอบไว อัปเดตงานตลอด

  • “Repeat Order” → ลูกค้าหลายรายกลับมาซื้อซ้ำ

6. ข้อดี–ข้อเสีย ที่คุณควรรู้ก่อนสั่ง

แม้ว่า Jacob M. จะเป็น Fiverr Pro Seller ที่ได้รับความนิยมสูง แต่เพื่อความแฟร์ เราควรมองทั้งด้านบวกและข้อจำกัด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

6.1 ข้อดี

คุณภาพลิงก์สูง (DA50+)
ทุกลิงก์ที่คุณได้รับมาจากเว็บไซต์ที่มีค่า Domain Authority สูงจริง ไม่ใช่เว็บสแปม

ทำงานแบบ White Hat ปลอดภัย
ไม่ใช้ PBN, ไม่ใช้สแปมบอท → ลดความเสี่ยงโดน Google Penalty เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว

ความน่าเชื่อถือสูง
ผ่านการคัดเลือกเป็น Fiverr Pro + มีรีวิวกว่า 3,600 รายการ คะแนนเฉลี่ย 4.9 ดาว ถือเป็นเครื่องการันตีที่หาได้ยาก

รายงานโปร่งใส ตรวจสอบได้
หลังงานเสร็จ คุณจะได้ไฟล์รายงานพร้อมรายละเอียดลิงก์ทั้งหมด → เช็กได้เองทุกลิงก์

สื่อสารดี และบริการมืออาชีพ
จากรีวิวหลายร้อยรายการ สิ่งที่ลูกค้าชอบมากคือการอัปเดตงานสม่ำเสมอ และ Jacob ตอบคำถามได้รวดเร็ว

6.2 ข้อเสีย

⚠️ ไม่ใช่ลิงก์เฉพาะกลุ่ม (Niche Specific)
ลิงก์ที่ Jacob ทำเป็นลิงก์จากเว็บทั่วไป (General Sites) ไม่ได้มาจากเว็บเฉพาะสาย เช่น เว็บท่องเที่ยว, การเงิน, หรือสุขภาพ ถ้าคุณต้องการลิงก์เจาะจงใน Niche อาจต้องเลือกบริการอื่นเสริม

⚠️ ต้องใช้เวลาเห็นผล
แม้ Backlink คุณภาพจะช่วย SEO ได้จริง แต่ Google ใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเดือนกว่าจะอัปเดตผล → อย่าคาดหวังว่าลิงก์สร้างวันนี้ พรุ่งนี้จะติดหน้าแรกทันที

⚠️ จำนวนลิงก์มีขีดจำกัด
Jacob ใช้ฐานลิงก์คุณภาพที่ปลอดภัยและจำกัด → ถ้าคุณสั่งซ้ำหลายครั้ง ลิงก์อาจมาจากโดเมนเดิม (แม้จะเป็น URL ที่ต่างกันก็ตาม)

⚠️ เหมาะกับ Off-page SEO เท่านั้น
บริการนี้เน้น Backlink ไม่ได้ครอบคลุม On-page SEO หรือ Content SEO → หากเว็บคุณยังไม่มีการปรับพื้นฐาน อาจต้องทำควบคู่กันไป

7. สรุป + แนะนำวิธีเลือกซื้อบริการ Fiverr อย่างคุ้มค่า

จากที่เราได้เจาะลึกมาตลอด จะเห็นได้ว่า Jacob M. คือหนึ่งในฟรีแลนซ์สาย SEO บน Fiverr ที่แตกต่างจากคนทั่วไปอย่างแท้จริง

  • เขามี ประสบการณ์กว่า 14 ปี ในวงการ SEO

  • ผ่านการคัดเลือกเป็น Fiverr Pro Seller ซึ่งการันตีความน่าเชื่อถือ

  • ให้บริการ Backlink คุณภาพสูง (DA50+) ด้วยวิธี Manual White Hat ปลอดภัย ไม่เสี่ยง

  • รีวิวจากลูกค้าเกือบ 3,700 ราย (คะแนน 4.9 ดาว) ยืนยันคุณภาพจริง

  • มีผลงานจริงที่ช่วยให้ธุรกิจจากหลากหลายอุตสาหกรรมเติบโตใน SEO ได้อย่างยั่งยืน

เหมาะกับใคร?

  • ✅ เจ้าของธุรกิจที่อยากเพิ่มอันดับเว็บไซต์ แต่ไม่อยากจ้างเอเจนซี่ราคาแพง

  • ✅ Blogger หรือ Affiliate Marketer ที่ต้องการดันคีย์เวิร์ดให้ติดหน้าแรก

  • ✅ ผู้ที่มองหา Backlink คุณภาพ ปลอดภัย และสามารถตรวจสอบได้จริง

ไม่เหมาะกับใคร?

  • ❌ คนที่ต้องการผลลัพธ์แบบ “ทันใจ” ภายในไม่กี่วัน

  • ❌ ผู้ที่ต้องการ Backlink เฉพาะ Niche เช่น สุขภาพ การเงิน หรือท่องเที่ยว

  • ❌ เว็บที่ยังไม่ปรับ On-page SEO เพราะ Backlink เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ

วิธีเลือกซื้อบริการให้คุ้มค่า

  1. เตรียมคีย์เวิร์ดและ URL ให้พร้อม – Jacob แนะนำว่าควรใช้ 1 URL + คีย์เวิร์ดไม่เกิน 10 คำ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน

  2. เริ่มจากแพ็กเกจเล็กก่อน – หากคุณยังไม่มั่นใจ ลองเริ่มจากแพ็กเกจพื้นฐาน (90 ลิงก์ DA50+) เพื่อดูแนวทาง

  3. ใช้ควบคู่กับ On-page SEO – เช่น ปรับโครงสร้างเว็บ เนื้อหา และความเร็ว เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้ชัดเจนขึ้น

  4. สั่งซ้ำอย่างมีจังหวะ – ไม่ควรทำ Backlink เยอะเกินไปในครั้งเดียว การทำแบบค่อย ๆ ทยอย (Drip Feed) จะปลอดภัยกว่า

ถ้าคุณกำลังมองหาการลงทุน SEO ที่ “คุ้มค่า โปร่งใส และปลอดภัย” บริการของ Jacob M. บน Fiverr Pro เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้าคุณเน้นการสร้าง Backlink คุณภาพเพื่อผลลัพธ์ระยะยาว

Get in Touch

ชื่อของคุณ*


ข้อความ*

ติดต่อ TWC SEO Expert

หากคุณต้องการพัฒนาธุรกิจออนไลน์ด้วย SEO หรืออยากปรึกษากลยุทธ์การตลาดดิจิทัล สามารถติดต่อผมได้ตามช่องทางด้านล่างครับ