เทคนิคจากช่อง Ghulam Ali: วิธีทำ SEO ให้ติดอันดับ Google ภายใน 24 ชั่วโมง
มาดูกันทีละขั้นตอนครับว่าเขาใช้วิธีอะไรบ้าง
1) เริ่มจากเว็บที่มีอายุแล้ว (Aged Website)
จุดเริ่มต้นของเทคนิคนี้คือ “เว็บที่มีอายุ” ไม่ใช่โดเมนใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวาน
-
เว็บที่มีอายุ 4–6 เดือนขึ้นไป มักจะถูกกูเกิลมองว่ามี ความน่าเชื่อถือ (authority) แล้ว
-
การจัดอันดับหน้าใหม่จึงทำได้ง่ายกว่า
-
ถ้าเป็นเว็บใหม่จริง ๆ เทคนิคนี้อาจยังใช้ไม่ได้ ต้องให้เวลาเว็บสร้างความน่าเชื่อถือก่อน
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนพยายามซื้อ aged domain มาเริ่มโปรเจกต์ SEO แทนที่จะใช้โดเมนใหม่ ๆ
2) ทำ Initial Audit: ตรวจสุขภาพเว็บให้ละเอียด
ก่อนจะไปสร้างคอนเทนต์หรือหาลิงก์ สิ่งแรกที่ควรทำคือ ตรวจสอบสภาพเว็บ (audit) ให้ครบทุกมุม เหมือนหมอตรวจร่างกายก่อนรักษาคนไข้
Ghulam Ali ใช้เครื่องมืออย่าง:
-
Screaming Frog
-
Ahrefs Site Audit
-
SEMrush Site Audit
-
Website Auditor by Link Assistant
สิ่งที่ต้องเช็ก:
-
Core Web Vitals → ความเร็ว, LCP, CLS
-
SSL/HTTPS → มีบางหน้าที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่
-
Duplicate Content → หน้าใดที่ซ้ำกัน
-
Missing H1 / Multiple H2 → ปัญหา heading structure
-
Page Speed → มีเพจที่โหลดช้ากี่หน้า
-
Broken Links → ลิงก์เสียภายในเว็บ
พอเราได้ list ของปัญหาพวกนี้แล้ว ขั้นต่อไปคือการแก้ไขจุดที่สำคัญที่สุด
3) Fix On-Page Issues: เก็บงานพื้นฐานให้แน่น
หลังจากรู้แล้วว่าเว็บมีปัญหาตรงไหน ก็มาถึงขั้นตอน การแก้ไข on-page SEO
สิ่งที่เขาเน้นแก้ ได้แก่:
-
ติดตั้ง SSL (HTTPS) ให้ครบ → ถ้าไม่ทำ เบราว์เซอร์จะฟ้องว่า “Not Secure” และกูเกิลก็ลดความน่าเชื่อถือ
-
ปรับ Title และ H1 → ใส่คีย์เวิร์ดหลักให้ชัดเจน ตรงกับเจตนาผู้ค้นหา
-
ใช้ H2/H3 แบ่งหัวข้อย่อย → ทำให้อ่านง่ายขึ้นและกูเกิลเข้าใจโครงสร้างเพจ
-
ลด Page Load Time → บีบอัดรูป, เปิด lazy load, ใช้ CDN
-
ใส่ Internal Links → ช่วยกระจายพลังและทำให้กูเกิลเจอเพจใหม่ง่ายขึ้น
การแก้ไข on-page เหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่เป็นตัวกำหนดเลยว่าเว็บคุณ “พร้อมสำหรับการจัดอันดับ” หรือยัง
4) Keyword Research + Competitor Analysis: หาโอกาสจากคู่แข่ง
การเลือกคีย์เวิร์ดไม่ได้ทำแบบสุ่มหรือเลือกตามความรู้สึก แต่ใช้การ วิเคราะห์คู่แข่ง
สิ่งที่เขาทำคือ:
-
เอาโดเมนคู่แข่งไปใส่ใน SEMrush / Ahrefs → ดูว่าเขาได้ทราฟฟิกจากคีย์เวิร์ดไหนบ้าง
-
เลือกคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งได้ทราฟฟิก แต่ ไม่ได้แข็งเกินไป (เช่น DR ไม่สูง, backlink น้อย)
-
เปิด Google ดู Top 5 ผลลัพธ์ → ถ้าเจอ niche site ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ = สัญญาณว่าเรามีโอกาสแซง
ตัวอย่างในคลิป:
เขาเจอคีย์เวิร์ด “Drone Taxi Dubai” → มีเว็บ DR แค่ 27 แต่แซงเว็บใหญ่ ๆ อย่าง Indian Express ได้ เพราะเป็น เว็บ niche ที่โฟกัสแค่เรื่อง taxi
สรุปคือ: เน้นคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งยังทำไม่แน่น และเรามีโอกาสเข้าไปแทรกได้
5) Content: ทำคอนเทนต์ให้ครบและดีกว่าคู่แข่ง
เมื่อเลือกคีย์เวิร์ดได้แล้ว ก็มาถึงเรื่อง คอนเทนต์ ซึ่งเป็นหัวใจหลัก
เทคนิคคือ:
-
ศึกษาเพจคู่แข่งที่ติดอันดับ → ดูว่าเขาเขียนอะไร, มีหัวข้อไหนบ้าง
-
ทำคอนเทนต์ที่ ครอบคลุมกว่า เช่น เพิ่มราคา วิธีใช้งาน ตาราง FAQ
-
ใส่รูปภาพ/อินโฟกราฟิก → ทำให้คนอ่านเข้าใจง่ายขึ้น
-
เขียนให้ ตอบโจทย์เจตนาค้นหา (search intent) โดยตรง
โครงคอนเทนต์ตัวอย่างจากวิดีโอ:
-
H1: Drone Taxi Dubai คืออะไร
-
H2: ราคาและวิธีคิดค่าโดยสาร
-
H2: เส้นทางและเวลาที่ให้บริการ
-
H2: วิธีจองและข้อกำหนด
-
H2: ความปลอดภัยและข้อจำกัด
-
H2: FAQ
-
สรุป + Call to Action
6) Link Building: เติมลิงก์ที่จำเป็น
เขาใช้เทคนิค Backlink Gap Analysis → เอาเว็บตัวเองไปเทียบกับคู่แข่ง แล้วดูว่า:
-
คู่แข่งมีลิงก์จากเว็บไหน
-
เว็บเราไม่มีจากแหล่งนั้น → ก็ไปหาลิงก์มาเหมือนกัน
ถ้าเป็นลิงก์ฟรีก็ทำได้เลย ถ้าเป็น paid ก็อาจต้องลงทุนบ้าง เพราะถ้าคู่แข่งซื้อมาแล้ว เราอาจต้องจ่ายเพื่อไม่ให้เสียเปรียบ
นอกจากนี้ยังใช้ internal links ช่วยดันเพจใหม่จากเพจที่แรงกว่าในเว็บ
7) Indexing: บอกกูเกิลว่า “พร้อมแล้ว”
ขั้นสุดท้ายคือการ เร่งให้กูเกิลมาเก็บข้อมูลเร็วขึ้น
-
ใช้ Google Search Console → Request Indexing
-
วาง internal links จากเพจที่กูเกิลเข้ามาบ่อย
-
แชร์ลิงก์ผ่าน social หรือส่งผ่าน email newsletter เพื่อให้เกิดสัญญาณการคลิก
ทำครบทุกอย่างแล้ว กูเกิลก็เข้ามาเก็บข้อมูลและจัดอันดับได้ไวมาก
สรุป: สูตร 24 ชั่วโมงจาก Ghulam Ali
เมื่อรวมทุกขั้นตอน จะได้เป็นสูตร:
Audit → Fix On-Page → Keyword Research → Better Content → Link Building → Request Indexing
สิ่งสำคัญคือ ต้องทำครบทุกขั้นตอน และทำกับเว็บที่มี authority อยู่แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือ เพจใหม่สามารถขึ้นอันดับกูเกิลได้ภายใน 24 ชั่วโมงจริง ๆ
✍️ ผมไม่ได้เป็นคนทำเองนะครับ แค่หยิบเทคนิคจากคลิปของ Ghulam Ali มาสรุปให้ฟัง เผื่อใครอยากลองเอาไปปรับใช้กับเว็บหรือบล็อกของตัวเองครับ